วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

เสื้อเชิ้ตตัวเก่ง ตัวเดียวใส่ทำงานและไปปาร์ตี้

เสื้อเชิ้ตตัวเก่ง…แต่งเท่ได้ทุกโอกาส

เมื่อพูดถึงแฟชั่นคนทำงาน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เครื่องแต่งกายของสาวๆ ส่วนหนุ่มๆ จะถูกมองข้าม เพราะเห็นว่าใส่แต่เสื้อเชิ้ต หรือไม่ก็สูทเท่านั้นต่อแต่นี้เสื้อเชิ้ตไม่ได้เป็นเพียงเชิ้ตธรรมดาอีกต่อไป หนุ่มๆ สามารถสวมเสื้อเดรสเชิ้ตทั้งไปทำงาน และใส่เสื้อตัวเดิมไปปาร์ตี้ต่อได้ยามค่ำคืน ดังนั้น การมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าให้อินเทรนด์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซีเค คาลวิน ไคลน์ มีเคล็ดลับการแต่งตัวให้กับหนุ่มๆ 5 สไตล์เพื่อให้เข้ากับบุคลิกของแต่ละคน


Professional

Professional สไตล์อิตาเลียนคลาสสิกและเวิร์กเชิ้ตแบบ Modern Fit เป็นรูปแบบที่เหมาะที่สุดสำหรับหนุ่มผู้ยึดมั่นในแบบแผน เพียงเลือกเสื้อเชิ้ตเฉดสีอ่อนถึงปานกลางจับคู่กับแจกเก็ตและกางเกงทรงหลวม (Loose Pants) ผ้าวูลสีเข้มหรือสีอ่อน หากต้องการเพิ่มความทันสมัย อาจเพิ่มลูกเล่นเครื่องประดับสีสันสดใสอย่างเนคไทลายกราฟฟิกต่างๆ ที่มี สีสันๆ และกระเป๋าเอกสารแบบใหม่ล่าสุด ทำให้บุคลิกของหนุ่มประเภทนี้ดูสดชื่นและมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ

Sporty

Sporty ชายหนุ่มที่รักการออกกำลังกายและเอาใจใส่สุขภาพเป็นอย่างดี หนุ่มประเภทนี้จะดูหล่อเหลาได้ทั้งในเสื้อเวิร์กเชิ้ตแบบ Slim Fit และ Modern Fit โดยเฉพาะแบบแรกนั้นจะช่วยเน้นเรือนร่างที่สมส่วนได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงลองสวมใส่กับกางเกงทรงหลวมหรือทรง Baggy และเข็มขัดสีอ่อนเพื่อสร้างความไม่จำเจ หรือเพื่อให้ได้ลุคสปอร์ตตี้สุดเท่ เพียงสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงวอร์มผ้ามันวาวที่แต่งด้วยแถบลายทางคาดข้างกางเกง และที่พลาดไม่ได้สำหรับหนุ่มรักกีฬาก็คือรองเท้า Sneakers สีขาวเรียบ ซึ่งจะทำให้ผู้ชายดูหล่อทันสมัยมากยิ่งขึ้น

Metro-sexual

Metro-sexual เสื้อเชิ้ตเข้ารูปเป็นแบบที่เหมาะที่สุดกับหนุ่มผู้รักความสมบูรณ์แบบ เพียงสวมใส่เสื้อเชิ้ต Slim Fit กับกางเกงทรงตรงขาลีบ (Cigarette Pants) ก็จะช่วยเน้นรูปร่างที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักจนได้สัดส่วนที่ต้องการให้ดูดีมากยิ่งขึ้น หรือหากต้องการสไตล์ลำลองแต่ยังดูมีเอกลักษณ์ เพียงสวมเสื้อเชิ้ตกับเสื้อแจกเก็ตลำลอง จับคู่กับกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ก็ดูมีสไตล์ที่ชวนให้ใครๆ ต้องเหลียวมอง หรือหากต้องการเป็นที่จับจ้องจากทุกสายตา เพียงหาเครื่องประดับที่ประกอบด้วยเงินหรือทองแดงสะท้อนความแวววาวมาสวมใส่ จะทำให้เกิด Futuristic look ที่ดูโดดเด่นเกินใคร

Preppy

Preppy สำหรับหนุ่มวัยรุ่นที่เริ่มสนใจการแต่งตัว ควรการแต่งตัวด้วยการลดความเคร่งขรึมของเสื้อผ้าด้วยการเพิ่มลูกเล่นอย่างเครื่องประดับและสีสัน หนุ่มน้อยที่รักการแต่งตัวอาจเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อเชิ้ตทั้งแบบ Modern หรือ Slim กับเสื้อคาร์ดิแกน เสื้อกั๊กหรือเสื้อแจกเก็ตสีแนวพาสเทล ใส่กับกางเกงทรงตรงสไตล์ยูนิฟอร์มหรือกางเกงเข้ารูปขาเต่อแนวยุค 50s สามารถเพิ่มความเท่อย่างมีสไตล์ด้วยด้วยสาย Suspenders หมวกแบเร่ต์และรองเท้าหนังผูกเชือก ก็จะได้รูปแบบการแต่งตัวแนวนักเรียนเท่ๆ ได้อย่างไม่มีใครเหมือน

High Street

High Street สำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบการแต่งตัวแนวเซอร์ เพียงเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีเรียบพับแขนอย่างไม่ตั้งใจสวมทับเสื้อยืดตัวเก่งกับกางเกงทรงตรงหรือยีนส์วินเทจสีซีด เพิ่มบุคลิกกวนด้วยแว่นตากันแดดสไตล์ย้อนยุคชวนให้นึกถึงเจมส์ ดีน หากต้องการเพิ่มความเนี้ยบของการแต่งตัว แนะนำให้เลือกเชิ้ตในโทนสีที่ชื่นชอบสวมใส่กับกางเกงยีนส์สี Indigo เข้มทรงตรงและรองเท้าผ้าใบหนังสีขาวหรือรองเท้าหนังหัวแหลมแบบสวม ก็จะให้ลุคที่ดูสง่างามแบบหนุ่ม ไฮ สตรีท ได้อย่างไม่เหมือนใคร
จากนี้ไปไม่ว่าคุณสุภาพบุรุษจะมีบุคลิกแบบไหนก็สามารถสวมใส่เสื้อเชิ้ตได้อย่างมีสไตล์อันโดดเด่นและเหมาะกับทุกช่วงเวลาเสมอ

ลักษณะของผ้าสำหรับทำเสื้อยืด

ลักษณะของเนื้อผ้าโดยทั่วไป เนื้อผ้ามีมากมายหลายแบบ แยกออกไปหลายชนิด ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้และเป็นที่ต้องการในท้องตลาดมี 3 ชนิด ใหญ่ๆ ดังนี้

ผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า T/K หรือ TK

ส่วนผสมของเส้น ด้าย = Polyester100% เนื่องจากทำจาก Polyester100% ผ้าชนิดนี้จึงค่อนข้างกระด้าง มีลักษณะมัน และระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก แต่รูปทรงทรงตัว ไม่ หด ไม่ย้วย ไม่ค่อยยับสีไม่ตก ราคาค่อนข้างถูก มีทั้งแบบหนาและแบบบาง นิยมใช้ตามท้องตลาดลาด หรือ นำมาทำเสื้อแจกเพื่อส่งเสริมการขายหรือทำเสื้อกีฬาสีที่ไม่เน้นคุณภาพหรือระยะเวลาการใช้ งาน ผ้าชนิดนี้ขึ้นขนง่ายกว่าชนิดอื่น

เกรดผ้า cotton สำหรับทำเสื้อยืด

ผ้าฝ้ายผสมกับผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไป ว่า ผ้าT/C หรือ TC

ผ้าชนิดนี้มีส่วนผสมของเส้นด้าย = Polyester65%+Cotton35% ผ้าชนิดนี้ดีกว่า ผ้า TK เพราะมีส่วนผสมของ Cotton 35% ทำให้สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดีกว่า ผ้า TK เนื้อนุ่มน่าใส่และคงตัวได้ไม่หดหรือย้วย ราคาไม่แพงมาก เหมาะสำหรับผลิตเสื้อบริษัท เสื้อ ทีม เสื้อกีฬาสีเสื้อสมาคม เสื้อชมรม เสื้อฟอร์ม ผ้าชนดนี้มีอายุในการใช้งานนานกว่า ผ้า TK แต่อย่างไรก็ตามหากใช้ไปสักระยะนึงผ้าก็จะขึ้นขนบ้างตามลัษณะทั่วไปของเส้นใย ราคาของผ้า ขึ้นอยู่กับสีด้วยว่าเป็นสีเข้มหรือสีอ่อน หากสีเข้มก็จะแพงกว่าสีอ่อน เนื่องจากสีที่ใช้ใน การย้อมเส้นใย Cottonนั้นมีราคาสูงกว่าสีที่ใช้ย้อมเส้นใย Polyester

ผ้าฝ้าย (Cotton100%)

ผ้าชนิดนี้นิยมนำมาทำเสื้อที่มีแบรนขึ้นห้างต่างๆ เพราะสามารถนำมาอัพราคา ได้ดี อีกทั้งบริษัทและห้างร้านทั่วไปก็นิยมสั่งทำเสื้อให้กับพนักงาน เพราะผ้าชนิดนี้ใส่แล้วไม่ ร้อน สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี เนื้อนุ่ม แต่ก็จะมีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ ยับง่าย เมื่อซัก บ่อยๆ ก็จะย้วย

เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้า Cotton 100 % แบ่งเกรดอย่างไร

ผ้าฝ้าย หรือ cotton 100% ที่ นำมาผลิตเสื้อยืดสามารถแบ่งตามเบอร์เส้นด้าย โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20,32,40 ตามลำดับ สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไปจะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้นโดยเฉพาะตามเบอร์ที่ต้องการ เนื่องจากกระบวนการในการผลิต(ปั่นเส้นด้าย)ให้เส้นด้ายมีขนาดเล็กต้องอาศัย เครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนที่สูงในการผลิต เมื่อนำมาผลิตเสื้อยืดก็จะมีต้นทุนสูงตามไปด้วย ถ้าเบอร์น้อยจะใช้ด้ายเส้นใหญ่ เบอร์ มากใช้ด้ายเส้นเล็ก เช่นผ้า Cotton 100 % เบอร์ 20 เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าเบอร์ 32 เนื่องจากขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า โดยทั่วไปผ้า Cotton ที่นิยมนำมาใช้ทำเสื้อยืดและเสื้อโปโล ในราคาระดับปานกลางถึงสูงคือผ้า Cotton 100% เบอร์ 20 (เสื้อยืดสำหรับผู้ชาย) และ 32(เสื้อยืดสำหรับผู้หญิง) ส่วนเบอร์ 40 มักจะนำมาทำเสื้อสำหรับเด็กอ่อน หรือเสื้อที่เน้นความบางเป็นพิเศษ และเสื้อยืดแบรนเนมส์บางรุ่นเบอร์ที่สูงกว่า 40 จะเป็นเสื้อยืดที่ต้องสั่งทอผ้าขึ้นเป็นพิเศษ
กระบวนการผลิตเส้นด้าย เป็น ตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อผ้า เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีคุณภาพทั้งในด้านการเรียงตัวของด้ายที่มีความหนาแน่น สม่ำเสมอและกำจัดสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากเส้นใยเพื่อให้ได้เส้นด้ายที่มี คุณสมบัติที่ดีเมื่อไปทอเป็นผ้าผืน ทำให้สามารถแบ่งเกรดผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการผลิตได้ 3 เกรดคือ

Cotton OE

ไม่ผ่านกระบวนการคัีดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย เสื้อยืดที่ผลิตจาก cotton ชนิดนี้จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำขาดง่าย เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด เนื่องจากต้นทุนในการใช้เครื่องจักรและกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้ายเป็น เส้นด้ายต่ำสุด

Cotton Semi

ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักรทำให้ได้ผลผลิต เป็น เส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 – 32) และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง

Cotton Comp

ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสาง ทำให้ได้ผลผลิตเป็น เส้นด้ายที่มีขนาดเล็ก (เบอร์ 32 ขึ้นไป) และสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้า cotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และ่กระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน